เทคนิค อยู่กับ สามีเจ้าระเบียบ จุกจิก ให้พออยู่ได้
เทคนิค อยู่กับ สามีเจ้าระเบียบ จุกจิก ให้พออยู่ได้
เทคนิค อยู่กับ สามีเจ้าระเบียบ จุกจิก ให้พออยู่ได้
ภรรยาคนหนึ่งเล่าว่า สามีเจ้าระเบียบ มาตั้งแต่เป็นแฟนกัน แต่ที่เป็นปัญหาคือพอแต่งงานก็ยิ่งเจ้าระเบียบกว่าเก่า พอมีลูกก็ยิ่งมีอาการหนักขึ้น ไม่ว่าลูกจะคลานหรือเอามือแตะพื้นตามประสาเด็ก ๆ ทั่วไป สามีจะเอากระดาษเย็นที่ฆ่าเชื้อมาเช็ดลูก หรือไม่ก็จับลูกไปล้างมือ เรียกว่าถ้าเขาอยู่บ้านลูกและเธอจะถูกสั่งให้ไปล้างมือตลอดเวลาจนมือแทบเปื่อย เด็กเล็กๆ ล้างเองไม่เป็น เธอและสามี (ถ้าเขาอยู่) ก็จะจับลูกไปทำความสะอาด ลูกคงเบื่อแต่แกเล็กเกินกว่าจะพูดหรือขัดขืน นอกจากร้องนิดหน่อยเหมือนมีใครมาขัดใจ (น้อยๆของแก) เรื่องอื่น ๆ ก็มี เช่น ขี้บ่น ขี้ลืม ชอบคิดเรื่องไม่เป็นเรื่อง ไม่พอยังชอบพูดซ้ำ ๆ ซาก ๆ ทั้งที่อายุแค่ 40 ปี เขาอาจแต่งงานช้าไปนิด เขาจึงดูเหมือนกังวลไปหมดไม่ว่าจะเรื่องลูก บ้าน รถ ข้าวปลาอาหาร เป็นต้น แต่ตัวเองลืมโน่นลืมนี่ไม่รู้สึกอะไร เช่น ลืมกดชักโครก ลืมปิดประตู ลืมกุญแจ เป็นต้น ที่สำคัญชอบมาสั่งซ้ำๆ ซากๆ กับภรรยาไม่ว่าเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ เช่น อย่าลืมเอากระดาษเช็ดจานชามให้สะอาดก่อนล้างท่อน้ำทิ้งจะได้ไม่อุดตัน ล้างเท้า ล้างมือ (
ถ้าไปข้างนอกมา) อย่าลืมใช้ช้อนกลาง อย่าให้ลูกเล่นรองเท้ามันสกปรก อย่าจับประตูทางเข้า สกปรกคนจับกันมาก ฯลฯ เธออยากปรึกษาว่า สามีของเธอเป็นอะไร เธอจะได้พอทำใจได้บ้าง ครอบครัวจะได้ไม่ประสาทเสีย นี่คือปัญหาของแม่บ้านคนหนึ่งที่สามีอาจเป็นโรคย้ำคิดย้ำทำไปนิด อันที่จริงเรื่องชอบความสะอาดเป็นกับคนไม่น้อย ถ้ายอมรับว่าเขาเป็นอย่างที่เขาเป็นมาตั้งแต่ตอนเป็นแฟนก็คงพออยู่ด้วยกันได้ พอมาถึงตอนนี้ เขาไม่ได้เป็นมากขึ้นเท่าไร แต่ที่ดูมาเธออาจจะอยู่กันทุกวันมากกว่าตอนเป็นแฟน เลยเห็นนิสัยที่แท้จริงของเขา ก็อยู่จนกระทั่งมีลูกกันแล้วอย่ามัวใส่ใจกับนิสัย
(อันถาวร) ของเขา เราน่าจะทนแล้วเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ลองบวกลบคูณหารแล้วเขามีดีมากกว่าเสียก็อาจอยู่เป็นสุขขึ้นแทนที่จะใส่ใจกับความสะอาดหรือขี้บ่นของเขา แล้วลองคิดในอีกมุม ดีแล้วที่เขาไม่มีกิ๊ก เมียน้อย เมียเก็บให้เราทุกข์ใจ จึงควรเลิกใส่ใจและยึดถือ หรือรำคาญสามี แต่ควรวางเฉยต่อพฤติกรรมของสามีที่เป็นมายาวนาน อยู่ ๆ เราจะไปเปลี่ยนนิสัยเขาได้อย่างไร นี้แค่ข้อคิดเตือนใจ ไม่อาจจะให้ใครเลิกคิดรำคาญสามีได้ แต่ถ้าอยากสุขกับการทำให้ตัวเองไม่สบายใจก็ทำไป แต่ถ้าอยากเลิกประสาทเสียก็ต้องเลิกใส่ใจไม่ว่าเขาจะพูดหรือสั่งให้เราทำอะไร อย่างน้อยเรายังมีสามีที่ใส่ใจดูแลเราและลูกมากขนาดนี้ เขาถึงได้ทำตัวแบบนั้นด้วยความห่วงใย อย่างไรก็ตาม อยากเตือนใจภรรยาทั้งหลาย ลองฟังคำแนะนำนักจิตวิทยา Morton H. Shaevitz อดีตผู้อำนวยการ Insitute for Family and work Relationships ในแคลิฟอร์เนีย ที่พูดเรื่องพฤติกรรมสามีที่อาจเป็นอื่นหรือยึดถือบางอย่าง และถ้า เป็นจริงก็ควรหันหน้า (ไม่สบอารมณ์มาคุยกัน) หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญดีกว่าปล่อยให้มีปัญหาคาใจต่อไป
1. คอยจับผิด เช่น อาจจะหาว่าเราอ้วนเหมือนตุ่มต่อขาพูดจาไม่น่ารัก ชอบเหน็บแนมเรา (แม้เราจะใกล้ ๆ กับน้องช้างไปทุกทีก็ตาม)
2. ชอบเปรียบเปรย เช่น เมียเพื่อนดูดี ไม่ว่ามีลูกกี่คน ทำให้เราโกรธที่เขาบังอาจมาว่าเราทางอ้อมว่าดูไม่ดี (ทั้ง ๆ ที่ก็ดูไม่ดีอย่างเขาว่า)
3. ไม่ช่วยดูแลลูก โดยอ้างว่าเป็นหน้าที่ของแม่ ทั้ง ๆ ที่เราก็มีงานทำท่วมหัว เขากลับไปช่วยดูแลลูกเพื่อนหรือคนอื่นแทน
4. ไม่ช่วยงานบ้าน แล้วยังทำให้เราต้องทำงานบ้านมากกว่าเขา ก็เขาอยู่แบบมือไม่พาย เอาเท้าราน้ำ ปล่อยให้เราเป็นนางแจ๋วทำคนเดียวจนหน้ามันย่อง (ถ้าน้ำมันขายได้ เราคงรวยแล้ว)
5. มีข้ออ้างที่ไม่อยากอยู่บ้าน คงจะเบื่อหน้าเรา หรืออาจเจอใครที่ถูกใจ (จนเราอยากถีบให้สะใจ) วิธีง่าย ๆ ไปทำงานต่างจังหวัด หรืองานไม่เสร็จต้องอยู่ดึก ก็มัวไปเสร็จกับคนอื่นที่อาจจะเห็นว่าสวยกว่าเรา นับวันเริ่มเห็นเราเป็นปลาร้าเข้าไปทุกที จนเราอยากสวมบทนางวายร้ายให้เห็นดำเห็นแดง เห็นแผลกันไปข้างหนึ่ง (ถ้าไม่กลัวเขาเตะกลับมา)
6. ไม่ค่อยอยากพูดจาเสวนากับเรา เรียกว่ากับคนอื่นเขาสามารถสรรหาเรื่องมาพูดแบบน้ำไหลไฟดับได้ แต่กับเราเขากลับไม่พูดไม่จา เห็นเราเป็นของค้างสต็อกอยู่ในโกดัง
7. ไม่ให้เวลาแก่ครอบครัว มักจะอ้างว่าไม่ว่าง ทั้ง ๆที่เราหรือลูกอยากให้เขากินข้าวด้วยกัน ดูโทรทัศน์ อ่านหนังสือเป็นต้น จนทำให้เราและลูกเสียใจ โดยเขาจะอ้างแค่ว่าต้องการหาเงินเลี้ยงครอบครัว ทั้ง ๆ ที่เงินก็สำคัญแต่ไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดลูกเมียน่าจะสำคัญกว่าสิ่งใด
8. สังเกตมีอะไรผิดปกติเข้าทำนอง อย่าชะล่าใจ เพราะเขาอาจกำลังล่าสาว ๆ ที่ดูดีกว่าเรา (ซึ่งก็จริงเหมือนกันแต่จะให้ยอมรับ คงเป็นชาติหน้ากระมัง) ปกติผู้หญิงส่วนมาก ไม่ค่อยรู้หรอกว่าเขามีกิ๊ก มีเมียน้อย มารู้อีกทีก็เสร็จโรงเรียนกิ๊กกับเมียน้อยไปเรียบร้อยแล้วเราจึงควรสังเกตบ้างไม่ใช่อยู่แบบไม่รู้มืดรู้สว่าง มาสว่างอีกทีก็โดนเมียน้อยคาบสามีเราไปแล้ว แต่ไม่ควรจับผิดเขาจนรำคาญเรา และหาข้ออ้างตีจากไปหาอีหนูที่จุ๋มจิ๋มกว่าเรา (ที่เหมือนกับช้างตกมัน)เช่น มีคนส่งข้อความแปลก ๆ เสื้อเชิ้ตมีรอยลิปสติก มีกลิ่นน้ำหอมติดเสื้อที่เราไม่เคยใช้ มีโทรศัพท์มาก็รีบปิด หรือรีบออกไปรับโทรศัพท์ที่อื่น เพื่อน ๆ หวังดี (ให้ผัวเมียตีกัน) เตือน ๆ ว่าดูสามีไว้บ้าง หรือไม่ยอมหลับนอนกับเราอ้างว่าเหนื่อยไมมีอารมณ์ เพราะไปมีอารมณ์กับสาวอื่นจนหมดน้ำยาไปแล้ว หรือแสดงบทรักช่ำชองทั้ง ๆ ที่ก่อนหน้านี้ก็แค่ฝีมือระดับอนุบาล ตอนนี้ไปไกลถึงระดับมัธยม ที่ทำตัวแบบนี้คงสำนึกผิดที่ทรยศต่อเมียที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเขา
9. สนใจลัทธิแปลกๆ เช่น เชื่อเรื่องสิ่งลี้ลับ หรือมีความสัมพันธ์ทางเพศแบบพิลึกพิลั่นจนเมียอยากจะอ้วกเป็นของแถมมากกว่าเห็นดีเห็นงามไปด้วย แถมถ้าเราไม่ร่วมมือเขาก็ขู่ว่าจะไปหาผู้หญิงอื่นมาร่วมมือแทนเรา (ก็อยากให้ไปหาเสียเร็ว ๆถ้าไม่ได้มีรสนิยมผิดผู้ผิดคนแบบนั้น)
10. ชอบทำให้เราช้ำใจ เช่น ใช้เงินเปลือง เที่ยวเตร่กลับบ้านดึกๆ ดื่นๆ พอถามเขาก็ทำท่าไม่พอใจ จนเราจะบ้าตาย ทั้ง 10 ข้อ ที่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวมา เรารู้อยู่แก่ใจก็คงต้องถามใจตัวเองว่าจะอยู่กับเขาหรือจะไปจากเขา ถ้าถามผู้เชี่ยวชาญก็แล้ว พยายามปรับตัวอย่างเต็มที่สุดความสามารถแล้วก็ตาม ก็มาถึงทางสุดท้ายจะอยู่กับเขาจนแก่เฒ่าฟันหมดปาก แบบไม่อยากอยู่ก็ต้องอยู่เหมือนคนติดคุกตลอดชีวิตไหมหรือจะปล่อยชีวิตคู่จบลง จะได้หมดวิบากกรรมร่วมกันซะที
รวมบทความรัก เซ็กส์ เรื่องลับเฉพาะบนเตียง เรื่องบนเตียง ที่คุณควรทราบ ไม่ว่าจะเป็น การใช้ถุงยาง สำหรับคู่รัก คู่แต่งงาน
ผู้เขียน/เรียบเรียง : Gunhsanova (กัณห์ กุลอัฐภิญญา)
วิทยากร คอลัมนิสต์ นักเขียน นักคิด นักการตลาดและการวางแผนแบรนด์ ที่ปรึกษาเกี่ยวกับสุขอนามัยทางเพศ ความรักความสัมพันธ์
สนับสนุนโดย :: ร้านขายสินค้าออนไลน์ ขายสินค้าสำหรับผู้ชาย ขายเจลหล่อลื่น ถุงยางอนามัย ของเล่นผู้ใหญ่ อาหารเสริม รวมสินค้าสำหรับผู้ชาย By Metasanova
22 กุมภาพันธ์ 2567
ผู้ชม 12 ครั้ง