จูบแลกน้ำลาย อันตรายกว่าที่คิด?
จูบแลกน้ำลาย อันตรายกว่าที่คิด?
จูบแลกน้ำลาย อันตรายกว่าที่คิด?
ปัจจุบันวัยรุ่นไทยมีการแสดงความรักกันอย่างเปิดเผยมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการกอด หรือการจูบ โดยที่ จนถึงขั้นทำให้สมองเสื่อม เป็นโรคอัลไซเมอร์ได้ เกี่ยวกับเรื่องนี้ นพ.ประวิตร พิศาลบุตร แพทย์โรคผิวหนัง อดีตนักวิจัยสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า การจูบนั้นอาจไม่ปลอดภัยทำให้เกิดการติดเชื้อโรคจากน้ำลายได้หลายอย่าง ที่พบบ่อยคือ โรคเริม ซึ่ง จะเป็นตุ่มน้ำเจ็บ ๆ คัน ๆ ที่ริมฝีปาก จมูก คาง แก้ม เกิดจากเชื้อไวรัสเริมชนิดที่ 1 (HSV-1) ในอเมริกาพบว่าเมื่อ วัยรุ่นอายุครบ 20 ปี ส่วนใหญ่จะมีการ ติดเชื้อเริมที่ปากไปแล้ว และเริมที่อวัยวะสืบพันธุ์ ซึ่งเกิดจากเชื้อไวรัสเริมชนิดที่ 2 (HSV-2) เริมเป็นแล้วจะไม่หายขาด เมื่อ ผู้ติดเชื้ออ่อนแอ เช่น เป็นไข้ โดนแดดจัด หญิงก่อนมีประจำเดือน เริมจะกำเริบได้ หากแกะเกาตุ่มน้ำแล้วสัมผัสนัยน์ตา กระจกตาอาจอักเสบจนถึงขั้นตาบอด ที่น่าสนใจ คือ ปัจจุบันเชื่อว่าการ ติดเชื้อเริมที่ริมฝีปาก (HSV-1) อาจทำให้เกิดโรคสมองเสื่อมที่เรียกว่าอัลไซเมอร์ได้ โดยตรวจพบเชื้อไวรัสเริม (HSV-1)
ในคราบสมอง (beta-amyloid plaques) ของผู้ป่วยที่เป็น โรคนี้ อาการของอัลไซเมอร์ คือ ความจำเสื่อม หลงลืม ชอบพูดซ้ำ ถามซ้ำ ปัจจุบันพบว่ามีผู้เป็นโรคนี้มากขึ้น เพื่อป้องกันโรคเริม แนะ นำว่าให้งดเว้นการจูบพร่ำเพรื่อ การมีเพศสัมพันธ์ สำส่อน งดการใช้เสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว ตลอดจนแก้วน้ำร่วมกัน เพื่อความปลอดภัยควรใช้หลอดดูด ดูดน้ำจากแก้ว ผู้หญิงที่ชอบทดลองลิปสติกตามเคาน์เตอร์เครื่องสำอางมีโอกาสติดเชื้อ เริมได้ ผู้ที่เข้าห้องน้ำสาธารณะก็มีโอกาส ติดเชื้อเริมที่ก้น จึงควรใช้กระดาษ ปู รองนั่ง
การทักทายโดยการจูบแบบชาว ตะวันตกนั้นเพิ่มการติดเชื้อเริมอย่างมาก การทักทายโดยการไหว้แบบไทยนับว่าปลอดภัยกว่า การจูบปากยังทำให้ติดเชื้อไวรัส อื่น ๆ คือ โรคไวรัสตับอักเสบ บี เอ และน่าจะถ่ายทอดไวรัส ซี ได้ด้วย ซึ่งล้วนเป็นโรคเรื้อรังเป็นแล้วไม่หายขาด มีโอกาสทำให้ตับอักเสบ ตับแข็ง ตับวาย และอาจกลายเป็น
มะเร็งตับ ทั้งนี้การจูบอาจถ่ายทอดโรคโมโนนิวคลิโอสิส (infectious mononu- cleosis) ที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่า เอปสตีน บาร์ ไวรัส (Epstein Barr Virus, EBV) โรคนี้จึงมีชื่อภาษาอังกฤษว่าโรคจากการจูบ (kissing diseases) มักพบในวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ตอนต้น โรคนี้ทำให้เกิดอาการไข้ ต่อมน้ำเหลืองโต ม้ามโต เจ็บคอ ปวดหัว เยื่อหุ้มสมองอักเสบ และตับอักเสบ สำหรับการติดเชื้อไวรัสเอชไอวี ที่ทำให้เกิดโรคเอดส์ซึ่งหลายคนกลัวนั้น โดยทั่วไปการจูบไม่ทำให้ติดโรคนี้ ยกเว้นแต่ว่าเป็นการจูบแบบเปียกที่ผู้ที่เราไปจูบด้วยมีแผลมีเลือดออกในช่องปากและมีเชื้อเอชไอวี และตัวเราก็มีแผลในช่องปากเองด้วย อย่างไรก็ตาม การจูบยังทำให้ติดเชื้อไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ โรคติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนบน เยื่อหุ้มสมองอักเสบจากไวรัส หูดข้าวสุก และโปลิโอ
รวมบทความรัก เซ็กส์ เรื่องลับเฉพาะบนเตียง เรื่องบนเตียง ที่คุณควรทราบ ไม่ว่าจะเป็น การใช้ถุงยาง สำหรับคู่รัก คู่แต่งงาน
.
ผู้เขียน/เรียบเรียง : Gunhsanova (กัณห์ กุลอัฐภิญญา)
วิทยากร คอลัมนิสต์ นักเขียน นักคิด นักการตลาดและการวางแผนแบรนด์ ที่ปรึกษาเกี่ยวกับสุขอนามัยทางเพศ ความรักความสัมพันธ์
สนับสนุนโดย :: ร้านขายสินค้าออนไลน์ ขายสินค้าสำหรับผู้ชาย ขายเจลหล่อลื่น ถุงยางอนามัย ของเล่นผู้ใหญ่ อาหารเสริม รวมสินค้าสำหรับผู้ชาย By Metasanova
.
16 มีนาคม 2567
ผู้ชม 28 ครั้ง