ช่วงเวลาพิสูจน์รัก

         ช่วงเวลาพิสูจน์รักของ ‘จ๋า & หลุยส์’ ออกมายอมรับว่าอยู่ในช่วงศึกษาดูใจกันอยู่ สำหรับนักแสดง พิธีกร และวีเจสาว จ๋า – ณัฐฐาวีรนุช ทองมี กับ หลุยส์ – พงษ์พันธ์ เพชรบัณฑูร นักแสดงจากซิตคอมเรื่อง ‘บางรักซอย9’ ดีเจและพิธีกรของรายการ Five Live ทางช่อง 5 ความสนิทสนมของจ๋ากับหลุยส์เกิดขึ้นตอนที่ทั้งคู่ร่วมแสดงหนังด้วยกันเรื่อง’คริตกะจ๋า บ้าสุดสุด’ (มีกำหนดฉาย 14 กุมภาพันธ์นี้) จากนั้นความสัมพันธ์เริ่มขยับมาสู่ขั้นคบหาดูใจ และเป็นช่วงเวลาพิสูจน์ความรัก กว่าจะผ่านด่านนี้ไปได้ ทั้งคู่ต้องเรียนรู้และปรับตัวอะไรกันบ้างบททดสอบนี้น่าติดตาม ใช้มายากลเป็นสื่อ หลุยส์ ตอนที่ผมรู้ว่าจะได้เล่นหนังกับจ๋าก็ดีใจ จ๋าเป็นนักแสดงคนหนึ่งที่ผมชื่นชอบ แล้วก็เป็นคนน่ารักดี พอมาเวิร์กช็อป ได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น ได้รู้จักนิสัยใจคอก็เริ่มประทับใจ จ๋า ตอนเวิร์กช็อป หลุยส์จะเป็นแผนกเอนเตอร์เทนค่ะ ชอบเอามายากลมาเล่นให้คนในกองดู นั่นเป็นประเด็นแรกที่ทำให้หลุยส์มีตัวตนขึ้นมาเรื่อย ๆ คนก็จะล้อมวงดูว่าเก่ง

ตอนแรกจ๋ายังไม่ได้เข้าไปดู เพราะจ๋าเป็นคนแบบ ถ้านั่งตรงไหนก็จะนั่งตรงนั้น ขี้เกียจลุก แต่พอเห็นคนฮือฮามาก ๆ เราก็เริ่มอยากรู้ แต่ยังไม่อยากไป จนเขาเดินมาเล่นให้ดู เป็นกลเชือกรองเท้า เขาก็จะเอาเชือกรกงเท้าออก แล้วสะบัด ๆๆ จนมันกลับไปผูกใหม่เองได้ จ๋าช็อกไปเลย ทำได้ยังไง ทุกคนก็ร้องอยากดู เลยเป็นท็อปปิกในการพูดคุยมากกว่าว่าทำได้ยังไง หลุยส์ ตอนเอากลไปโชว์ ผมคิดว่ามันเป็นอย่างเดียวที่ผมภูมิใจที่สุดแล้วก็อยากทำให้จ๋าเห็นว่าผมเอนเตอร์เทน และอยากเข้าไปมีส่วนร่วมเข้าไปพูดคุย โชคดีจ๋าเป็นคนน่ารัก เป็นผู้ชมที่ดีมาก จ๋า แล้วในความหมายว่ามีตัวตนคือรู้สึกว่าคนนี้น่าสนใจ

จ๋าไม่ได้สนใจที่เขาเล่นกลเก่ง แต่จ๋าสนใจว่าคนนี้มีอะไร เพราะเขาบอกว่าฝึกมาแค่ 4 เดือน จ๋าเลยตกใจว่าอะไรทำให้คนคนนี้ฝึกได้คล่องภายในเวลาแค่นี้ หลังจากนั้นเขาจะมาอัพเดทกลใหม่ ๆ ให้ดู เน้นบันเทิงอย่างเดียว หาบัตรดูคอนเสิร์ตให้ จ๋า จ๋าเป็นคนไม่เจ๊าะแจ๊ะ ส่วนหลุยส์ก็ไม่ใช่คนที่จะมาเจ๊าะแจ๊ะกับใคร อย่างมาเล่นกลให้ดู จบก็คือจบ เวิร์กช็อปเสร็จก็แยกย้ายกันกลับบ้านไม่มีการคุย โทรหา ไม่มีเบอร์โทรศัพท์กัน พอเริ่มถ่ายหนังก็ยังไม่สนิท จนผ่านไปสักพักจะมีคอนเสิร์ตเอไทม์ & เอเอฟ

จ๋าถามว่าดีมั้ย น่าดูหรือเปล่า เขาก็ใส่ใหญ่เลยว่าน่าดูมาก หลุยส์ ใจผมตอนนั้นก็อายนะครับ แต่คิดว่านี่เป็นโอกาสที่จะทำความสนิทสนมกับจ๋า เลยไปจัดแจงหาบัตรให้ จ๋าก็น่ารักมาก จะไม่ไปดูก็ได้ แต่จ๋าก็เคลียร์งานจนลงตัวและมาดู จริง ๆ จ๋าอาจจะได้บัตรจากคนอื่นก็ได้ แต่อยางน้อยผมรู้สึกว่าผมอยากเป็นคนที่หาบัตรมาให้ได้ จ๋า วันนั้นจ๋าไปดูกันหลายคนมีทั้งเพื่อนๆ ผู้จัดการ อย่างพวกที่แชแนลวีก็ได้บัตรอยู่แล้ว เขาชวนจ๋าไปนั่งด้วย แต่พอดีจ๋าได้บัตรจากหลุยส์ ซึ่งบัตรของเพื่อนดีกว่าอีก (หัวเราะ) โชว์พาวเลี้ยงมื้อใหญ่ แต่รูดบัตรไม่ผ่าน หลุยส์ พอได้คุยกันมากขึ้น ผมรู้สึกได้ว่าเราน่าจะเข้ากันได้ เพราะคุยกันถูกคอ จ๋ามีสิ่งที่ผมต้องการ และชื่นชมมาก ๆ ส่วนผมก็คงมีบางอย่างที่จ๋าไม่เคยเจอ (หัวเราะ)

หลังจากนั้นผมชวนจ๋าไปกินข้าว ตอนนั้นไม่ได้คิดนาน เพราะรู้อยู่แล้วว่าเราต้องการอะไร ใจเราอยากมีเวลากับเขา ตอนหลังมาคิดว่าเร็วไปหรือเปล่า แต่สุดท้ายจ๋าโอเค ไว้ใจ ยอมไปกินข้าวด้วย วันนั้นเราไปกินอาหารญี่ปุ่นกันที่ดิเอ็มโพเรียม จ๋า ตอนนั้นที่ไปยังคิดว่าเขาไม่ได้คิดอะไร คงเป็นแค่เพื่อนๆ ที่เลิกงานก็ไปกินข้าวด้วยกัน พอเข้าไปที่ร้าน เขาสั่งอาหารมาแบบฟูลอ็อปชัน หลุยส์ ผมเป็นคนรักการกินมาก กินอาหารอร่อยๆ จะมีความสุข วันนั้นก็อยากให้จ๋าประทับใจ จ๋าเป็นคนชอบกินเหมือนกัน แล้วมันก็เหมือนในหนัง ตอนแรกจ๋าจะไม่ยอมให้ผมจ่ายจะต้องหารครึ่ง พอพนักงานมา ผมก็โชวพาว เลยถามว่า พี่ครับ ถ้าพาผู้หญิงมากินข้าว แล้วพี่ให้ผู้หญิงออกให้มันทุเรศมากเลยใช่มั้ยครับ พนักงานหัวเราะกันคิกคัก ผมก็ยื่นการ์ดให้ไป จ๋า สักพักพนักงานเดินกลับมา จ๋าบอกว่า จะมาบอกว่ารูดไม่ผ่านใช่มั้ยค่ะ

ถ้ารูดไม่ผ่านนี่ขำเลยนะ พนักงานบอกว่า ใช่ค่ะ รูดไม่ผ่าน เขาก็นึกว่ามุก ยังไม่เชื่อ พนักงานบอกว่าจริงค่ะ หลุยส์เริ่มหน้าเสีย งั้นเอาอีกใบแล้วกันครับ ใบนี้ก็ยังไม่ผ่านอีก สุดท้ายจ๋าเป็นคนรูดบัตร แล้วค่าอาหารไม่ได้ถูกนะคะ หลุยส์ ผมวิ่งไปกดคืนแทบไม่ทัน ก็น่าอายน่ะ จ๋า เขาคิดว่าหลังจากนั้นจ๋าคงจะไม่ไปกินข้าวกับเขาแล้ว จ๋าบอกว่าไม่เป็นไรหรอก มันเป็นอุบัติเหตุ หลุยส์ แต่ผมซีเรียสมาก เล่าให้แม่ฟัง แม่บอกว่าอายเขามั้ยเนี่ย เสียชื่อหมด โชคดีที่เป็นจ๋า หลังจากนั้นผมก็ชวนจ๋าไปกินข้าวอีก ละลายพฤติกรรมด้วยคาราโอเกะ หลุยส์ หลัง ๆ เริ่มสนิทกันมากขึ้น ก็จะมีไปตีแบดบ้าง

จ๋า เราชวนกันไปเล่นกีฬา โชคดีอย่างหนึ่งที่จ๋าอยู่กับผู้ชายได้แบบไม่อึดอัด เพราะนิสัยคล้ายๆผู้ชายเวลาเล่นกีฬาก็จะเล่นเต็มที่ หลุยส์ หลังจากนั้นก็จะไปร้องคาราโอเกะ จ๋า เป็นกิจกรรมที่ชอบมาก ได้ละลายพฤติกรรม หลุยส์ เวลาร้องเพลง จ๋าเป็นคนมีเสน่ห์ เห็นชัดมากเวลาเปล่งเสียงออกมา จ๋า เราไม่แย่งไมค์กัน แต่ถ้าใครเผลอจะตกใจมาก เพราะอีกคนจะเลือกเพลงเป็นสิบ ๆ เพลง อีกคนจะนั่งเป็นเก๊กซิมไป ถ้าวันไหนรั่วๆ ก็ชักชวนกันหาเพลงเต้น แต่ค่อนข้างแย่ค่ะ รับตัวเองไม่ได้กันทั้งคู่ เลยเปลี่ยนมาร้องเพลงช้า ถ้าวันไหนว่าง ๆ ก็นั่งเล่นมุก ต่อปากต่อคำกัน หลุยส์

ตรงนี้มันเลยวัดได้ คือหนึ่ง ทำให้ผมรู้ว่าจ๋าจิตใจดี คนที่มีอารมณ์ขันจะเริ่มมาจากจิตใจ สองคือ เวลาจ๋าเจอขอทาน หรือคนแก่ ๆ จะให้เงินตลอด แรก ๆ ผมคิดว่าสร้างภาพหรือเปล่า แต่จริงๆ ไม่ใช่ ทำให้ผมประทับใจ จ๋าเป็นคนอ่อนโยนมาก สาวช่างจำกับหนุ่มขี้ลืม หลุยส์ เราสองคนเหมือนกันตรงความกวนครับต่างคนต่างกวน จ๋า เวลาคุยกันกันจะสนุก ขำ ๆ จ๋าชอบคุย ชอบเล่น เวลาคุยก็สนุกเอนเตอร์เทนกันไป เป็นคนง่ายๆ เหมือนกัน มองอะไรก็ไม่รู้สึกว่าจะต้องเป็นแบบนี้ตลอด วันนี้อาจไม่ได้ ต้องเป็นอีกแบบ ก็สามารถทำได้ทุกอย่าง กินข้าวตรงไหนก็ได้

นั่งตรงไหนก็ได้ กินง่ายอยู่ง่าย หลุยส์ แต่ทั้งหมดนีก็อยู่บนพื้นฐานของความจริงใจ ถ้าเราจริงใจต่อกัน มันก็ไม่เกิดปัญหา จ๋า สิ่งที่ต่างกันอย่างแรกคือจ๋าช่างจำ ในขณะที่หลุยส์ขี้ลืมอย่างหนัก สโลแกนว่าอะไรนะ หลุยส์ จำเร็ว จำแม่น แต่จำสั้น จ๋า จ๋าจำดีเทลได้เยอะมากตามประสาผู้หญิง ซึ่งแรื่องที่จ๋าเสียใจสุด ๆ คือมีวันหนึ่ง บอกดีเทลไม่ได้นะคะ

แต่เป็นวันสำคัญที่ไม่ใช่วันสำคัญทางศาสนา หลุยส์พูดเองว่าพอถึงวันนี้เขาจะทำอะไรบางอย่าง แล้วอยู่ดี ๆ ก็หมดวันไป โดยลืมว่าเป็นวันนี้ คนจำได้ก็นั่งรอทั้งวันเลยงอน เขามารู้ตัวตอนที่จ๋าโกรธนี่แหละ พอหมดวันจ๋าถามว่าจำไม่ได้ใช่มั้ย นั่นแหละถึงรู้ตัว

รวมบทความรัก เซ็กส์ เรื่องลับเฉพาะบนเตียง เรื่องบนเตียง ที่คุณควรทราบ ไม่ว่าจะเป็น การใช้ถุงยาง สำหรับคู่รัก คู่แต่งงาน