มีแฟนคนเดียว ก็ติด โรคทางเพศสัมพันธ์ ได้!

หมวดหมู่: บทความ
มีแฟนคนเดียว ก็ติด โรคทางเพศสัมพันธ์ ได้!
 
มีแฟนคนเดียว ก็ติด โรคทางเพศสัมพันธ์ ได้!
          เพศสัมพันธ์ คิดว่าคุณกับแฟน “สะอาด” แค่ไหน? เพราะถ้าไม่ตรวจให้ดี “น้องสาว” มีตุ่ม แผล แสบ คัน ขึ้นมา จะหาว่าไม่เตือนนะจ๊ะ อยากรู้มั้ยว่าการมีเซ็กซ์ที่ไม่ป้องกัน หรือการมีคู่นอนมากกว่าหนึ่งจะทำให้เราเสี่ยงกับ โรคทางเพศสัมพันธ์ อะไรบ้าง ลองไปคุยกับ พญ.ธิศรา วีรสมัย สูตินรีแพทย์ ประจำศูนย์สุขภาพหญิง ร.พ.พญาไท 1 กัน ผู้หญิงที่มีแฟนคนเดียวมีโอกาสได้รับ โรคทางเพศสัมพันธ์ มากแค่ไหน? ในการติดเชื้อแบคทีเรีย โดยส่วนมากจะเป็นกลุ่มสำส่อนทางเพศ แต่ทีนี้ผู้หญิงที่มีสามีเดียวก็มีโอกาส หากผู้ชายมีคู่นอนคนอื่น แต่ผู้ชายที่สำส่อนก็มีโอกาสรับด้วยตัวเองอยู่แล้ว ทีนี้การติดเชื้อแบคทีเรียถือเป็นประเด็นหลักและรุนแรงที่สุดในกลุ่มนี้ก็จะมี 4 โรคด้วยกัน
 .
          1.หนองในแท้ หนองในชนิดนี้มีระยะฟักตัวสั้น สัมผัสเชื้อ 2-4 วันก็จะมีอาการ สามารถทำให้เกิดอาการอักเสบน้อยไปถึงมาก คือผู้ป่วยร้อยละ 50 ไม่มีอาการเลย ส่วนอีกร้อยละ 50 ก็จะมีอาการตั้งแต่ต่อมบาร์โธลินบวมเป็นก้อนหนอง มีการอักเสบบริเวณปากมดลูก อักเสบบริเวณท่อปัสสาวะเวลาปัสสาวะจะแสบ ตกขาวเป็นหนอง มีกลิ่นเหม็น เป็นต้น แต่จะมีผู้ป่วยร้อยละ 15-20 ที่การติดเชื้อลามจากช่องคลอดเข้าไปโพรงมดลูก ทำให้โพรงมดลูกอักเสบ รังไข่อักเสบ ท่อรังไข่อักเสบ อักเสบในอุ้งเชิงกราน
          หรือมีก้อนหนองในท้อง ซึ่งถ้าเป็นแล้วจะมีอาการไข้สูง หนาวสั่นปวดท้องรุนแรง ต้องผ่าตัดด่วน สุดท้ายที่รุนแรงที่สุดคือสู่กระแสเลือดด้วย อาการก็คือช็อกไข้สูง หนาวสั่น อาจจะมีผื่นขึ้นตามตัว หรือมีข้ออักเสบร่วมด้วย และจะเป็นอันตรายถึงชีวิตหากไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที ซึ่งพวกนี้จะได้รับการวินิจฉัยได้ด้วยอาการ และเอาลักษณะตกขาวหรือเมือกไปย้อมเชื้อ หรือแม้แต่การเจาะเลือดการรักษาก็จะทำได้ด้วยการรับประทานยาปฏิชีวนะและ/หรือรับประทานยาต่อเนื่องเป็นระยะ ๆ
 
          2.หนองในเทียม (คลามีเดีย) เหมือนกับหนองในแท้ เพียงแต่เชื้อแบคทีเรียคนละตัวกัน หนองในเทียมจะไม่มีอาการเฉียบพลันเหมือนหนองในแท้ แต่จะเป็นประเภทซ่อนเร้น เมื่อติดเชื้ออาจมีอาการเรื่อย ๆ ต่อเนื่อง เช่น ตกขาวเหม็น เป็นหนอง หรือว่ามีตกขาวไม่หายสักที หรือเคยมีประวัติเลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์ เพราะปากมดลูกมีแผลอักเสบ ต้องตรวจภายในถึงจะเจอ เนื่องจากอาการไม่เยอะ ผู้หญิงบางคนถึงกับคิดว่าตัวเองเป็นตกขาวธรรมดาแล้วไม่ได้เข้ารับการรักษา กลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มที่มีสถิติของการมีลูกยากมากที่สุด เชื้อหนองในเทียมสามารถผ่านเข้าไปในโพรงมดลูกแล้ว ทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง เวลาปวดจะไม่ปวดหนัก แต่จะปวดต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ผ่านไปหลายปี
          บางทีแต่งงานแล้วก็มาหาหมอปรึกษาเรื่องมีบุตรยาก เป็นเพราะท่อรังไข่ตันเป็นพังผืดไปแล้วนั่นเอง คลามีเดียสามารถทำให้เกิดภาวะที่เรียกว่าฝีมะม่วง เมื่อเกิดการติดเชื้อสามารถทำให้เกิดแผลตุ่มขึ้นที่อวัยวะเพศภายนอก ร่วมกับการมีต่อมน้ำเหลืองที่อวัยวะเพศโตหรืออักเสบ พบได้ประมาณร้อยละ 10-15 และอาจมีหนองออกมาจากท่อปัสสาวะ แต่จะต่างจากโรคหนองในแท้ตรงที่มันไม่เจ็บ แล้วก็อาจจะมีไข้ ปวดเมื่อย ปวดศีรษะ น้ำหนักลดอาการจะค่อย ๆ แทรกซึม (แต่ถ้าถึงขนาดมีฝีมะม่วงนี่ก็แสดงว่าเที่ยวพอสมควรทีเดียวเลยค่ะ)
 
          3.ซิฟิลิส ร้อยละ 95 มาจากการติดต่อทางเพศสัมพันธ์แน่นอน ใช้ระยะเวลาฟักตัวนาน 3 สัปดาห์ แต่จะแพร่เชื้อได้มากที่สุดในปีแรก เช่น เรารับเชื้อมาในหนึ่งปีแรกแล้วไปมีคู่นอนต่อหลายคนก็แพร่เชื้อได้มากที่สุด ระยะที่ได้รับเชื้อใหม่ ๆ อาการที่อวัยวะเพศจะชัดเจนหลังจากรับเชื้อมา 2-4 สัปดาห์ จะมีแผลขึ้นที่อวัยวะเพศ แต่แผลจะแตกต่างจากแผลทั่วไปตรงที่เป็นแผลริมแข็งไม่เจ็บ สามารถขึ้นที่อวัยวะเพศทุกชนิดที่มีการสัมผัสในขณะร่วมเพศ ไม่ว่าจะเป็นอวัยวะเพศเรา รูทวาร และถ้ามีออรัลเซ็กซ์ก็จะมีที่ริมฝีปาก ลิ้น ทอนซิล หรือแม้แต่นิ้วมือ พวกนี้จะพบต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโตด้วยแต่ไม่เจ็บ หากปล่อยไว้ก็จะหายไปเอง ระยะ 3-8 สัปดาห์หลังติดเชื้อ ถ้าเราปล่อยเอาไว้ก็จะเข้าสู่ระยะนี้ซึ่งมีอาการทางระบบร่างกายทั้งหมด เพราะมันเข้าสู่กระแสเลือดแล้ว มีอาการคล้ายเป็นหวัด มีไข้ เจ็บคอมีน้ำมูก ปวดหัว อาจมีผื่นขึ้นตามตัวแต่ไม่คัน อาจมีตุ่ม สีน้ำตาลที่อวัยวะเพศ บางคนมีปื้นแดงอยู่ในช่องคลอดต่อมน้ำเหลืองโต บางคนผมร่วงเป็นหย่อม ๆ หรือร่วมทั้งศีรษะ ซีด มีภาวะโลหิตจาง ระยะที่สาม เกิดกับระบบร่างกายทั่วไป จะมี Gumma
          ซึ่งเป็นก้อนของโรคเกิดตามที่ต่าง ๆ ตามผิวหนัง กระดูก จะพบหลังติดเชื้อ 3-10 ปี หากพบก็หมายความว่าแย่แล้ว แต่ในปัจจุบันไม่ค่อยมีใครมีอาการถึงระดับนี้ แต่สมัยก่อนเขาจะเสียชีวิต เพราะเชื้อเข้าไปที่เส้นเลือดใหญ่ของร่างกาย ทำให้เส้นเลือดใหญ่อักเสบ ทีนี้ระยะเวลาติดเชื้อนานถึง 4-10 ปี เพราะฉะนั้น ผัวเดียวเมียเดียวอาจจะเจอปัญหาได้ค่ะ
 
          4.แผลริมอ่อน เกิดจากแบคทีเรีย Haemophilus Ducreyi ใช้เวลาฟักตัว 4-7 วัน คนไข้จะไม่ค่อยมีอาการทางระบบร่างกาย แต่จะเป็นแผลขึ้นบริเวณอวัยวะเพศที่เป็นจุดสัมผัส เช่น ปากช่องคลอดด้านนอก ช่องคลอด คลิตอริส ท่อปัสสาวะ และจะเป็นแผลริมนิ่ม ๆ และเจ็บ มีต่อมน้ำเหลืองที่ขาหนีบโตชัดเจน ถ้าเป็นในผู้ชายก็เจอแผลเหมือนกัน แต่เค้าอาจมีแผลขึ้นที่ท้องน้อย อวัยวะเพศ ต้นขา แล้วก็จะมีปัญหาท่อปัสสาวะ และรูก้นก็จะมีแผลเกิดขึ้น การรักษาจะใช้วิธีการกินยาปฏิชีวน Finishing touch โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ทำให้เกิดอะไรได้บ้าง? โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์สามารถนำมาซึ่งภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่รุนแรงได้ หลัก ๆ แล้วมีดังนี้
         
          1. เพิ่มความเสี่ยงการเป็นมะเร็งระบบอวัยวะสืบพันธุ์ เพราะปัจจุบันมะเร็งปากมดลูกพบได้มากที่สุดในผู้หญิงไทย โดยเกิดจากการได้รับเชื้อ HPV จากการมีเพศสัมพันธ์จนเดี๋ยวนี้คนเริ่มพดกันแล้วว่ามะเร็งปากมดลูกเป็นหนึ่งในโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ จนเดี๋ยวนี้คนเริ่มพูดกันแล้วว่า มะเร็งปากมดลูกเป็นหนึ่งในโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เพราะไม่ได้มาจากกรรมพันธุ์
 
          2. การติดโรคทางเพศสัมพันธ์ทำให้เกิดภาวะมีบุตรยากในผู้หญิงได้ ถ้าเป็นหนองในลามเข้าไปข้างในจนปีกมดลูกอักเสบ ท่อรังไข่อักเสบ ก็จะทำให้เกิดการตีบตันและเป็นพังผืด ก็จะมีสิทธิ์มีลูกยากได้
 
          3. เกิดภาวะแทรกซ้อนต่อการตั้งครรภ์ เช่น พอมีท่อรังไข่ตีบตันก็จะเกิดการตั้งครรภ์นอกมดลูกได้ สุดท้ายก็คือ เกิดภาวะทารกเสียชีวิตในครรภ์หรือพิการแต่กำเนิด เช่น ผู้หญิงที่มีเชื้อซิฟิลิสก็จะมีอันตรายต่อเด็กในท้องค่ะ บางครั้งสมมติว่าเราเจอตัวโรคในผู้หญิง แต่ผู้ชายไม่มีอาการก็มี เพราะฉะนั้นจำไว้ว่าโรคทางเพศสัมพันธ์ทุกชนิด ต่อให้ฝ่ายชายไม่มีอาการและมั่นใจว่าไม่มีคู่นอนคนอื่น ก็ต้องให้การรักษาอีกคนหนึ่งด้วยเสมอค่ะ Did You Know ? เฉพาะอเมริกาที่เดียว แต่ละปีพบผู้ป่วยติดเชื้อแบคทีเรียที่ช่องคลอดมากถึง 1.08 ล้านคน รองลงมาคือเริมและหนองในเทียม (ซึ่งเฉพาะหนองในเทียมเอง ก็เพิ่งมีการศึกษาจาก Edinburgh Royal Infirmary ชี้ว่าผู้ชายทั่วไปมีเชื้อนี้อยู่ถึงร้อยละ 10) โดยผู้หญิงตั้งครรภ์ก็อาจติดโรคติดต่อทางเพศสมพันธ์ได้เหมือนกัน ซึ่งผลอาจจะร้ายแรงกว่าในผู้หญิงที่ไม่ได้ตั้งท้องจนถึงขั้นอันตรายต่อชีวิตได้เลย ทางกรมควบคุมโรคติดต่อสหรัฐฯ จึงแนะนำให้ผู้หญิงทุกคนที่ตั้งครรภ์ตรวจหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ก่อน โดยเฉพาะเชื้อหนองในเทียม หนองในแท้ ตับอักเสบบี เอดส์ และซิฟิลิส แต่ทั้งนี้ ถุงยางอนามัยสมารถปกป้องโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ตามที่กล่าวมาแล้วได้หากใช้อย่างถูกต้อง

รวมบทความรัก เซ็กส์ เรื่องลับเฉพาะบนเตียง เรื่องบนเตียง ที่คุณควรทราบ ไม่ว่าจะเป็น การใช้ถุงยาง สำหรับคู่รัก คู่แต่งงาน

ผู้เขียน/เรียบเรียง : Gunhsanova (กัณห์ กุลอัฐภิญญา)

วิทยากร คอลัมนิสต์ นักเขียน นักคิด นักการตลาดและการวางแผนแบรนด์ ที่ปรึกษาเกี่ยวกับสุขอนามัยทางเพศ ความรักความสัมพันธ์

 

สนับสนุนโดย :: ร้านขายสินค้าออนไลน์ ขายสินค้าสำหรับผู้ชาย ขายเจลหล่อลื่น ถุงยางอนามัย ของเล่นผู้ใหญ่ อาหารเสริม รวมสินค้าสำหรับผู้ชาย By Metasanova
ร้านขายสินค้าออนไลน์ ขายสินค้าสำหรับผู้ชาย ขายเจลหล่อลื่น ถุงยางอนามัย ของเล่นผู้ใหญ่ อาหารเสริม รวมสินค้าสำหรับผู้ชาย
 

10 มีนาคม 2567

ผู้ชม 46 ครั้ง

Engine by shopup.com