สิ่งที่เราไม่ควรมองข้าม…ก่อนหันหลังให้ความรัก

          เราสามารถรักพร้อมกันสองคนหรือไม่ ผู้ชายกว่าครึ่งตอบว่า ได้ แต่ผู้หญิงร้อยทั้งร้อยมองว่าเป็นคำถามที่ตอบ ยาก นั่นอาจเป็นเพราะผู้หญิงมีกระบวนการทางความคิดที่ซับซ้อนมากกว่าและมันก็น่าจะเป็นเหตุผลเดียวกันว่า ทำไมเธอจึงยอมยุติความสัมพันธ์ ทั้งๆที่ก็ยังรักเขาอยู่ ยังมีอีกหลายสาเหตุของผู้หญิงที่สับสนและเข้าถึงยาก จึงไม่ใช่เรื่องแปลกหากจะเคยมีคนตั้งประเด็นระหว่างสมองของสองเพศ โดยรายงานฉบับหนึ่งในอีกหลายฉบับ อธิบายถึงเรื่องนี้ว่า สิ่งที่ทำให้ผู้หญิงและผู้ชายแตกต่างกันมาที่สุดคือ วิธีคิด ผู้ชายส่วนใหญ่ปราดเปรื่องเรื่องมิติสัมพันธ์ เขาจึงเชี่ยวชาญการดูแผนที่และสามารถฝ่าฝูงชานจากอัฒจันทร์ ไปซื้อเครื่องดื่มแล้วกลับมานั่งที่เดิมได้อย่างสบายๆในขณะที่ฝ่ายหญิงหากเป็นคนลงไปซื้อรับรองว่าหล่อนหลงกลับที่นั่งไม่ถูกผู้หญิงส่วนมากลึกซึ้งเรื่องอารมณ์และความรู้สึก ซึ่งเป็นความถนัดหลักของสมองซีกขวา ทำให้พวกเธอสะเทือนใจง่าย ขณะที่ผู้ชายกลับรู้สึกว่า ไม่มีทางจะได้เห็นน้ำตาลูกผู้ชายถึงแม้ทางวิทยาศาสตร์จะอธิบายถึงสาเหตุของพฤติกรรมเหล่านี้ได้ แต่ในทางกายภาพเรากลับมักเห็นผู้ชายเป็นฝ่ายกุมขมับ และปรับตัวรับอารมณ์ที่แปรปรวนของผู้หญิงไม่ทัน และแน่นนอว่าในบทสรุปของคู่รัก คงไม่ใครอยากให้จบลงด้วยการยุติความสัมพันธ์

ฉะนั้นก่อนที่จะหันหลังให้ความรัก เราลองไปสำรวจตัวเองดูหน่อยไหม คุณลืมทำบางอย่างไปหรือเปล่า รักวัน…เติมวัน การดูแลความรัก จริงๆไม่แตกต่างจากการปลูกต้นไม้ ถ้าคุณอยากเห็นการเจริญเติบของมันในทางที่ดีขึ้น คุณก็ควรหมั่นดูแลมันทุกวัน รู้ว่าเวลาไหนควรเติมดิน รดน้ำ เติมปุ๋ยหรือตัดแต่งกิ่งให้ดูสวยงาม ความรักก็เช่นเดียวกัน คู่รักย่อมต้องการการดูแลเอาใจใส่เป็นประจำ ไม่ใช่เดือนละครั้งหรือปีละครั้งเหมือนการยื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ทั้งนี้อาจสังเกตได้ว่า ทำไมคู่รักบางคู่ถึงขยันบอกรักกันทุกวัน ทั้งๆที่อยู่ด้วยกัน นั่งเพราะเค้ารู้ดีว่า กำลังใจคือน้ำหล่อเลี้ยงที่ทำให้หัวใจชุ่มชื้น และต้องการสัมผัสที่บ่งบอกถึงสถานะหัวใจ

เรายังรักกันดี ฉะนั้นวิธีคิดในการแสดงออกความรักง่ายๆคือ คุณเรียกร้องให้คู่รักแสดงออกความรักกับคุณมากแค่ไหน คุณก็ควรเป็นฝ่ายเริ่มต้นแสดงมันออกมาในปริมาณที่เท่ากัน เพราะไม่ใช่ผู้หญิงเท่านั้นที่ต้องการความรัก คนที่อยู่ตรงหน้าคุณก็ต้องการเช่นกัน และเขาจะรู้สึกดีมากถ้าเป็นฝ่ายรับในก่อนบ้าง สองคน…แต่หนึ่งหนทาง จากคำว่า ทางของคุณ หรือ ทางของเขา แนะนำให้ลองปรับระดับลงมาเป็น ทางของเรา…ทีมเดียวกัน เพราะเส้นทางนี้จะเป็นเส้นทางที่คนสองคนนัดหมายและเดินมาบรรจบกันในจุดที่พอดี ไม่มีใครต้องสูญเสียดินแดนหรือความเป็นตัวเองมานัก และผลมาจากคำว่า ทีมเดียวกัน คุณจึงไม่มี

คู่แข่ง หรือ แพ้ชนะ มีแต่คามร่วมมือกับความสามัคคีเท่านั้นที่ทีมต้องการ ที่สำคัญในเมื่อเราไม่สามารถคิดแทนใครได้ทุกเรื่อง ฉะนั้นเวลาไม่เข้าใจจึงควรถาม เพราะนั่นจะช่วยลดปัญหาความขัดแย้งและปมในใจที่คู่รักหลายคู่เจอกัน นั่นคือ ความไม่เข้าใจ มีผู้ชายจำนวนมากรู้สึกเป็นปมในใจ…เพียงเพราะแฟนมีอะไรๆที่เหนือกว่า ความรักแค่เข้าใจไม่พอ…แต่ต้องเข้าถึง เวลาที่ความรักเกิดปัญหา ไม่ว่าคุณจะปรึกษาใครหรืออ่านตำราคำแนะนำเรื่องความรักจากหนังสือเล่มไหนก็ตาม หลายครั้งที่คุณจะพบคำว่า ต้องพยามเข้าใจเค้านะ ซึ่งจริงๆแล้วผู้เขียนได้เขียนไว้ถูกต้องแล้ว แต่ถ้าคุณพยายามที่จะเข้าใจแต่ไม่ใส่ใจถึงความรู้สึกที่แท้จริงของมัน ก็คงยากเข้าถึง เราจึงควรนำความรัก 5 แบบตามหลักจิตวิทยาที่มีผลกับจิตใจคนโดยตรงมาให้คุณรู้จักว่าจริงๆแล้ว ความรักคุณเป็นแบบไหน ความรักแบบต้องการสัมผัส

เป็นความรักที่มีการแสดงออกที่มักสัมพันธ์กับความรู้สึกทางด้านร่างกาย ที่ต้องการได้สัมผัสที่อบอุ่น ได้อยู่ใกล้ชิดกันและมีการตอบสนองทางกายต่อกันและกัน ความรักแบบโรแมนติก เป็นความรักที่มีความรู้สึกหลงใหลที่รุนแรง รู้สึกว่าอีกฝ่ายดึงดูดใจอย่างมาก ความรักแบบต้องการอยู่ร่วมกัน เป็นความรักที่ต้องการมีส่วนร่วมแบ่งปันประสบการณ์ต่างๆต่อกัน ต้องการใช้เวลาอยู่ร่วมกันและทำตามคำขอร้องของคู่ของตน ความรักแบบต้องการความแน่ใจ เป็นความรักที่ต้องการความมั่นคงทางใจ อยากให้คู่ของตนเข้าใจตนเอง ในขณะเดียวกันก็พยายามเอาอกเอาใจอีกฝ่ายเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ ความรักแบบสัญญาใจ เป็นความรักที่มักเกิดจากการใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน จนเกิดเป็นความผูกผันเป็นสัญญาใจ ที่ต่างก็ยอมรับการใช้ชีวิตร่วมกัน และเป็นความรับผิดชอบที่รับรู้ได้ด้วยความรู้สึกที่มั่นคงต่อกัน

รวมบทความรัก เซ็กส์ เรื่องลับเฉพาะบนเตียง เรื่องบนเตียง ที่คุณควรทราบ ไม่ว่าจะเป็น การใช้ถุงยาง สำหรับคู่รัก คู่แต่งงาน